จังหวัดอุบลราชธานี เป็นอีกหนึ่งจังหวัดที่เราไม่ค่อยพูดถึงเท่าไร หากจะไปเที่ยว ด้วยความที่จังหวัดนี้มันไกลมาก การเดินทางหากนับจากกรุงเทพก็เอาเรื่องอยู่เหมือนกัน แต่ว่าสายบุญ เรามีวัดหนึ่งที่ต้องห้ามพลาดเลย เป็นวัดที่สวยมากและเราเชื่อว่า สายบุญทั้งหลายคงเคยเห็นมาบ้างแล้วตามภาพ หรือ คลิปที่ส่งกันมาในกลุ่มไลน์ของตัวเองมาวันนี้เราจะมารีวิววัดชื่อดังนี้ให้ฟังกัน วัดสิรินธรวราภูพร้าว
ข้อมูลเบื้องต้น
วัดตั้งอยู่ที่ตำบลช่องเม็ก อำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี สอบถามเพิ่มเติมได้ที่ 045243770, facebook: Phupraow การเดินทางไปวัดนี้เส้นทางประมาณ 100 กิโลเมตร หากตั้งต้นจากตัวจังหวัด เริ่มต้นจากตัวจังหวัดให้ออกเส้นทางไปอำเภอพิบูลมังสาหาร (ขับออกไปทางเส้นถนนหมายเลข 217) พอถึงตัวอำเภอพิบูลมังสารหาร แล้วให้เลี้ยวซ้ายไปทางอำเภอสิรินธร ก็ตรงไปได้ยาวๆ จะผ่านสถานที่ท่องเที่ยวอย่างพัทยาน้อย ทะเลน้ำจืด แล้วก็เขื่อนสิรินธร แล้วก็ถึงช่องเม็ก ให้ขับต่อไป จะเห็นป้ายบอกทาง ไปถึงปากทางเข้าวัดก็เลี้ยวเข้าไปอีกสองกิโลเมตรก็จะถึง แนะนำว่า การเดินทางไปเที่ยววัดแห่งนี้ ให้กะเวลาว่าถึงที่นั่นประมาณเย็นๆ เราจะเที่ยวตอนเย็น จนถึงหัวค่ำ แล้วกลับกลางดึก(ประมาณสามทุ่ม) ดังนั้นคนขับเตรียมตัวให้ดี จะได้ไม่ง่วงตอนขากลับ แม้ว่าทางจะขับง่ายแต่คนไม่ชินก็อันตราย
ตามประวัติของวัดนี้ คนท้องถิ่นจะเรียกว่า วัดภูพร้าว หรือบางคนจะเรียกว่า วัดเรืองแสง ผู้ก่อตั้งวัดแห่งนี้ก็คือ อาจารย์บุญมาก ฐิติปัญโญ พระสงฆ์เกจิชื่อดังที่เดินทางมาจากประเทศลาว มาปักกลดอยู่ที่นี้ พร้อมกับสร้างวัดด้วยในชื่อว่า วัดภูพร้าว แต่ว่าท่านต้องกลับประเทศจากความไม่สงบภายในประเทศ นั่นทำให้วัดแห่งนี้ถูกทิ้งร้างเอาไว้ จนกระทั่งได้มีการตั้งอำเภอใหม่ขึ้นมาชื่อว่า อำเภอสิรินธร จึงเปลี่ยนชื่อวัดนี้เป็น วัดสิรินธรวราราม พร้อมกับมีพระครูกมลภาวนากร เจ้าอาวาสวัดภูหล่น ท่านเข้ามาบูรณะวัดใหม่ จนได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมา แล้วก็พัฒนาวัดมาเรื่อยจนถึงปัจจุบัน
รีวิวท่องเที่ยว
อย่างที่บอกไปว่า วัดนี้เราต้องไปเที่ยวตอนเย็นถึงกลางคืน ถึงจะได้เห็นความสวยงามเรืองแสงที่เป็นจุดเด่นของวัดนี้ (แต่ไปตอนกลางวันก็สวยอยู่นะ ไปเที่ยวได้เหมือนกัน) เราขับรถมาตามเส้นทางจากในเมือง ก็ถือว่าทางดี ขับได้สบาย แต่ว่าในเมืองจะรถติดหน่อยจากชั่วโมงเร่งด่วน พอออกจากตัวจังหวัดได้ก็มายาวๆ เลย ตัวอำเภอไม่ติดเท่าไร พอมาถึงวัดก็เป็นช่วงเย็นแล้ว พอดีเราได้ถ่ายภาพพระอาทิตย์ตกดินได้เลย วิวแม่น้ำโขงที่ตัดกับพระอาทิตย์ ตรงไหนก็สวยๆ จริง ก่อนแสงจะหมดวัน เราเดินชมวัด เห็นความสวยงามของพระอุโบสถแห่งนี้อยู่มากเหมือนกัน ด้านหนึ่งเป็นต้นโพธิ์ใหญ่ มีพญานาคขนาบทางทางขึ้นทั้งสองทาง อีกด้านเป็นทางเข้า โดยอุโบสถหลังนี้สร้างขึ้นจากต้นแบบที่มาจากวัดเชียงทอง ประเทศลาว แต่เราทำใหญ่กว่า ทีนี้เข้าไปด้านใน รับรองว่าสายบุญต้องชอบแน่นอน เพราะว่าจะเป็นพระประธานที่สร้างขึ้นให้คล้ายกับพระพุทธชินราช แต่ไม่มีรัศมีด้านข้าง เป็นอีกหนึ่งองค์ที่สวยมาก บรรยากาศภายในก็เงียบสงบ เหมาะแก่การสักการะมาก
พอออกมาก็ได้เวลาเราไปดูไฮไลต์ของที่นี่กันพอดี นั่นก็คือ วัดเรืองแสง เราไปตามจุดเด่นของที่นี่ก็คือ ต้นโพธิ์ที่เราเล่าไปตอนต้น คนสร้างได้ฉาบสารเรืองแสงลงไปด้วย นั่นทำให้พอแสงหมด ต้นโพธิ์จะกลายเป็นต้นเรืองแสงตรงใบโพธิ์ รวมถึงด้านข้างก็จะมีเรืองแสงด้วย บวกกับด้านหน้าเปิดไฟสีนวลเหลืองทองไปอีก ทำให้วัดนี้ตอนกลางคืนเหมือนกับยกดวงดาวมาไว้ตรงนี้เลย สวยงามมาก ไม่ควรพลาดจริงๆ บอกได้แค่นี้
แผนที่ วัดสิรินธรวรารามภูพร้าว
ชมบรรยากาศเพิ่มเติม
