การท่องเที่ยววัดนั้นนอกจากจะเป็นเรื่องของการสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เพื่อความเป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัวแล้ว ต้องยอมรับว่าการเที่ยววัดบางแห่งยังเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์อีกด้วยอย่างเช่น วัดศรีชุม จังหวัดสุโขทัย วัดแห่งนี้มีจุดท่องเที่ยวสำคัญอย่างหนึ่งที่เราน่าจะเคยเห็นตามภาพโปรโมทการท่องเที่ยวไทย แต่ไม่รู้ว่ามันคือที่นี่ เราไปมาเห็นเลยขอรีวิวให้ฟังตามนี้
ข้อมูลเบื้องต้น
วัดศรีชุม ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองเก่า อำเภอเมือง สุโขทัย จังหวัดสุโขทัย วิธีการเดินทางเราแนะนำว่า ขับรถยนต์ไปเองจะสะดวกที่สุด วิธีการตั้งต้นจากตัวเมืองสุโขทัย ขับมาตามทางหลวง สุโขทัย ตาก (ถนนหมายเลข 12 ) ขับมาไม่ไกลประมาณสิบกิโลเมตร ก็จะเห็นวัดศรีชุมเลย จุดสังเกตให้ดูพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติรามคำแหง ก็จะเจอเลย วัดแห่งนี้ต้องเข้าทางอุทยานประวัติศาสตร์สุโขทัย เปิดให้เข้าชมได้ตั้งแต่เวลา 06.00-21.00 น.(ช่วงค่ำเวลา19.00-21.00น. จะเปิดไฟสาดส่องด้วย) เปิดให้บริการทุกวัน ค่าเข้าชม ชาวไทย ห้าบาท ชาวต่างชาติ หนึ่งร้อยบาท
ตามประวัติต้องบอกว่า วัดศรีชุมแห่งนี้มีความสำคัญทั้งทางด้านศาสนาและประวัติศาสตร์เลย เชื่อกันว่า วัดแห่งนี้ตั้งชื่อตามสภาพที่มีต้นโพธิ์เยอะ ก็เลยเรียกว่า วัดศรีชุม แต่อีกหนึ่งพงศาวดารก็เรียกว่าวัดนี้จากเหตุการณ์ที่มี ฤาษีมาอยู่กันเยอะ ก็เลยเรียกว่า วัดศรีชุม ตามประวัติบอกว่า วัดนี้สร้างขึ้นมาตั้งแต่สมัย พ่อขุนรามคำแหง
ทีนี้ในประวัติศาสตร์วัดนี้มีเหตุการณ์สำคัญตรงที่สมัย พ.ศ.2127 เป็นตอนที่สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ได้ประกาศอิสรภาพไม่ขึ้นต่อพม่าอีกต่อไป นั่นทำให้ยังมีบางเมืองที่ไม่ทำตาม หนึ่งในนั้นก็คือเมืองเชลียง(สวรรคโลก) นั่นทำให้ พระองค์ต้องมากำราชเมืองดังกล่าว แต่การรบครั้งนี้ไม่ง่ายนัก เนื่องจากเป็นการต่อสู้รบกับคนไทยด้วยกันเอง นั่นทำให้ทหารหลายคนไม่มีจิตใจในการสู้รบเท่าไร พระนเรศวร จึงต้องวางอุบายในการปลุกความฮึกเหิมให้กับทหาร ด้วยการให้ทหารคนหนึ่งแอบขึ้นไปบนหลัง พระอจนะ พระใหญ่ประจำวัดนี้ พร้อมกับพูดเสมือนเป็นเสียงของพระดังกล่าว จนกลายเป็นการปลุกใจเพื่อความฮึกเหิม สุดท้ายก็เลยทำศึกชนะมาได้
รีวิวท่องเที่ยว
ฟังเรื่องราวไปแล้ว มาว่ากันเรื่องท่องเที่ยวบ้างดีกว่า วัดแห่งนี้ต้องบอกเลยว่าอยู่ในเขตพื้นที่ดูแลของ อุทยาน ทำให้วัดแห่งนี้ยังคงสนามแบบเดิมได้เยอะทีเดียว น่าเสียดายที่ไม่ได้ก่อสร้างอะไรเพิ่มเติม ทำให้ดูเวิ้งว้างยังไงก็ไม่รู้ พอเราเดินเที่ยวก็ต้องยอมรับว่า อากาศโดยรวมดี ลมเย็นสบาย ต้นไม้เขียวสองข้างทางทำให้เราไม่ร้อนเท่าไรนัก จุดหมายของเราที่มาวัดนี้ก็คือ พระอจนะ พระพุทธรูปปางมารวิชัย ขัดสมาธิราบ หน้าตักกว้าง 11.30 เมตร สูง 15 เมตร สร้างตามแบบ ศิลปะสมัยสุโขทัย ที่เราเห็นท่านแต่ไกล จากรอยแยกของมณฑป ที่เป็นทางเข้า ซึ่งมุมนี้ก็เป็นมุมถ่ายภาพที่สวยงามภาพหนึ่ง แต่ว่าพอเราเข้าไปถึงภายใน เราถึงกับอึ้งในขนาดใหญ่ ที่มองยังไงก็นึกไม่ออกว่า เทคโนโลยียุคนั้น สร้างได้อย่างไร พอได้ไปสักการะจริงๆ แล้วคิดตามเรื่องราว ก็อดคิดไม่ได้ว่า เมื่อก่อนสมัยที่พระมณฑป ยังครอบอยู่ ที่นี่จะสวยงามเข้มขลัง อบอวลไปด้วยแรงศรัทธาต่อพระพุทธศาสนามากน้อยแค่ไหน ส่วนช่องทางที่มุดขึ้นไปหลังพระได้นั้น ได้ทำการปิดไปแล้ว เพื่อไม่ให้คนขึ้นไปอีก น่าเสียดายแต่ก็ต้องเข้าใจ เพราะไม่งั้นมันจะเกิดอันตรายต่อพระอจนะ ก็เป็นได้ เดินออกมาด้านนอก ยังมีอะไรให้ค้นหาอีก ไม่ว่าจะเป็นโบราณสถานเก่าแก่ใกล้เคียง แถวนั้น เดินเที่ยวเพลินๆ รอเวลาเค้าเปิดไฟตอนกลางคืน ที่ต้องบอกว่าสมกับการรอคอย สวยงามมาก แสงไฟที่สาดส่องทำให้สวยขึ้นไปกว่าเดิมอีกเยอะ
แผนที่ วัดศรีชุม
ชมบรรยากาศเพิ่มเติม
